News

ปรกติแล้วทุกๆคนก็จะรู้จักคุ้นชินกับเพชรที่มีสีขาว เป็นประกาย ระยิบระยับ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน แต่รู้ไหมคะว่าเพชรก็มีสีอื่นๆด้วย บางคนอาจจะคิดว่าเพชรสีมีจริงด้วยหรอ หรือเป็นการใส่สีเข้าไปด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือเปล่า งั้นเราไปรู้จักเพชรสีพร้อมๆกันเลยค่ะ เพชรสี (Fancy colored diamond) คือเพชรที่มีสีอื่นอยู่ในเพชรเช่นสี เหลือง ชมพู ฟ้า เขียว น้ำตาลเกิดจากการมีธาติบางชนิดอยู่ในเพชร หรือการเรียงตัวของอตอมที่ไม่สมบูรณ์ เป็นเพชรที่ไม่ได้รวมอยู่ในเพชรชารจสี d-z (ที่เราเรียกกันว่าเพชรน้ำ100 และรองลงมา) เพชรสีจะแยกออกมาอีกชาร์ทซึ่งจะเป็นชาร์ทที่หายากกว่าเพชรสีขาวมาก ราคาของเพชรสี ราคาจะขึ้นอยู่กับ ขนาดเพชร สีเพชร (ความเข้ม และโทนของสี) และแต่ละสีของเพชรก็จะมีราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความหายากของสีนั้นๆ...

เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมเพชรน้ำสีเดียวกัน ความสะอาดเดียวกัน แต่ทำไมราคาไม่เท่ากัน สิ่งที่ทำให้ราคาเพชรไม่เท่ากันหลักก็คือ การเจียระไนเพชรค่ะ (Cutting) เพชรเป็นอัญมณีที่สามารถเจียระไนได้หลายรูปทรงซึ่งจะส่งผลต่อ รูปร่างความสมมาตร และการกระจายแสงของเพชร เพชรคุณภาพดีจะต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งควรจะเป็นเพชร 3 Excellent หรือ Very Good เป็นอย่างน้อย เมื่อมีแสงส่องเข้าไปในเพชร จะกระทบออกมาจากด้านบน หากเพชรมีรูปทรงตื้นเกินไป แสงไฟจะหนีออกด้านล่าง ส่วนเพชรที่มีรูปทรงลึกเกินไป แสงไฟจะหนีออกด้านข้าง  การเจียระไนที่ดีนั้น จะช่วยส่งเสริมให้เพชรมีประกายแวววาวเมื่อกระทบกับแสงโดยลักษณะของแสงที่ดีนั้น แสงทั้งหมดจะต้องถูกสะท้อนมายังผู้สวมใส่แล้วให้ความแวววาวสูงสุด  หลายๆคนอาจะเคยได้ยินคำว่า เพชรเบลเยี่ยม เวลาไปซื้อเพชร แต่ไม่รุ้ว่าเพชรเบลเยี่ยมคัทคืออะไร แตกต่างยังไง...

โดยปรกติแล้วเพชรจะถูกแบ่งแยกความสะอาด(clarity) ออกเป็นหลายเกรดโดยเริ่มจาก Flawless (FL) คือเพชรที่ไม่มีตำหนิทั้งด้านในแล้วด้านนอกของเพชร Internal Flawless(IF) คือเพชรที่ไม่มีตำหนิด้านในเลยแต่อาจจะมีมลทินด้านนอกบนผิวเพชร(สามารถเห็นได้เฉพาะส่องกล้องขยาย10เท่าเท่านั้น)ซึ่งไม่มีผลต่อประกายของเพชรแต่อย่างได Very, very slightly included (VVS1-VVS2) มีตำหนิเพียงเล็กน้อยซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในการดูเพชรใช้แว่นขยาย10เท่าแล้วยังมองเห็นได้ยาก Very slightly included(VS1-VS2) มีตำหนิเพียงเล็กน้อยซึ่งผู้เชี่ยวชาญในการดูเพชรสามารถเห็นได้เมื่อใช้แว่นขยาย10เท่า Slightly included(SI1-SI2) มีตำหนิซึ่งสามารถสังเกตุได้ง่ายเมื่อใช้แว่นขยาย10เท่า หรือในบางกรณีสามารถมองเห็นตำหนิได้ด้วยตาเปล่า Included(I1-I2-I3) ตำหนิสามารถเห็นได้ชัดเจนเมื่อใช้แว่นขยาย10เท่าหรือเมื่อใช้ตาเปล่า ตำหนิมีผลต่อประกายเพชรอย่างสังเกตได้ สำหรับเพชรที่ไม่มีตำหนิที่เราเรียกกันจะหมายถึงเกรดFL และ IF เท่านั้นแต่ร้านเพชรบางร้านกางเซอร์ออกมาให้ลูกค้าดูเกรดVVS1–2 แล้วบอกเนี่ยเพชรไม่มีตำหนิเลยค่ะ งงกันไปเลยทีเดียว!! เขาก็ระบุอยู่ในเซอร์ละน้าา ดังนั้นเมื่อได้เซอร์ของเพชรมา ทำความเข้าใจกับแต่ละอย่างที่ระบุไว้ด้วยนะคะอย่าเชื่อคนขายอย่างเดียวนะจ้าา :)

แหวนหมั้นที่เราใส่อยู่ประจำนั้นเตือนความรู้สึกดีๆกับวันเวลาดีๆของเราและคนรักทุกๆครั้งที่เห็นเวลาสวมใส่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่สาวๆมักจะใส่ติดนิ้วไว้ไม่เคยถอด แต่ทราบหรือไม่ว่าการทำกิจกรรมบางอย่างนั้นเราควรจะถอดแหวนก่อนเพื่อให้เพชรไม่หมองและรักษาความแข็งแรงของโลหะและยังสามารถยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วยค่ะมาดูกันเลยว่ากิจกรรมเหล่านั้นมีอะไรบ้าง 1. ออกกำลังกาย ก่อนที่จะเสียเหงื่อเหนียวเหนอะหนะในขณะออกกำลังกายเราควรจะถอดแหวนของเราก่อน เพราะโลหะที่ใช้ทำแหวนไม่ว่าจะเป็น ทอง ทองคำขาว หรือแหวนเงินนั้นถึงแม้จะดูแข็งแต่ก็มีความอ่อนซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปทรงได้หากโดนแรงกระแทกหรือโดนกดแรงๆ ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงเช่น หากเตยที่เกาะเพชรโดนกระแทกทำให้บิ่นหรือหักอาจจะทำให้เพชรหลุดได้หรืออาจจะทำให้รูปทรงของแหวนนั้นผิดแปลกไปจากเดิมค่ะ 2. ขณะทาโลชั่น ขณะทาครีมหรือโลชั่นที่ตัวหรือที่หน้าบางทีเราอาจจะเผลอทาไปโดนแหวนหรือต่างหูที่เราสวมใส่อยู่ซึ่งตัวครึมจะไปปกคลุมหน้าเพชรทำให้เพชรดูหมองลง ไม่มีไฟวิ้งๆวับๆเหมือนตอนที่เราซื้อมาใหม่ๆดังนั้นก่อนสาวๆจะทาโลชั่นควรจะถอดเครื่องประดับออกก่อน ทาให้เสร็จจนครีมเริ่มซึมเข้าผิวแล้วค่อยนำมาใส่ แค่นี้เครื่องประดับเพชรของเราก็จะดูประกายสวยตลอดเวลาค่ะ 3. ขณะแต่งหน้า ทราบไหมคะว่าเครื่องสำอาง เสปรย์ฉีดผม น้ำหอม หรือสารเคมีต่างๆที่สาวๆใช้ในชีวิตประจำวันสามารถทำให้เครื่องประดับเพชรดูหมองได้ หลายๆครั้งที่ลูกค้าของทางร้าน Gems Heritage กลับมาเพื่อต้องการให้ชุบหรือล้างเครื่องประดับให้ดูใหม่ขึ้น เราจะเห็นได้ว่าแป้งเครื่องสำอางทั้งหลายมักจะเกาะติดอยู่ตามซอกของเครื่องประดับทั้งด้านบนของเพชรหรือใต้เพชรระหว่างเตย ทำให้เพชรดูไม่มีประกายเท่าที่ควรเพราะมีผงฝุ่นหรือน้ำมันต่างๆคลุมไว้อยู่...

เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมแหวนเพชรหรือเครื่องประดับเพชรพลอยที่สาวๆใส่กันอยู่ทุกวันนั้นดูหมองๆ สาเหตุนึงเป็นเวลาเราใส่บ่อยๆ เครื่องสำอาง ฝุ่น หรือความมันจากเหงื่อของเราไปบังอยู่ที่พื้นผิวของเพชรพลอยทำให้เพชรไม่ค่อยมีประกายเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ วันนี้ Gems Heritage เลยนำวิธีล้างเครื่องประดับแบบง่ายๆโดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ที่บ้านมาใช้ ดูวิธีทำความสะอาดได้ตามคลิปวีดีโอข้างล่างเลยค่ะ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 1.น้ำยาล้างเพชร หรือน้ำยาล้างจาน 2.น้ำเปล่าใส่ถ้วย 3.แปรงสีฟันขนนุ่ม 4.ผ้าเอาไว้เช็ดแหวนที่ไม่ค่อยมีขน   เคล็ดลับเพิ่มเติม1.ใช้น้ำอุ่น2.ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนเพื่อรักษาพื้นผิวของพลอย และโลหะมีค่า อย่าลืมล้างกันบ่อยๆน้าา ล้างแล้วเหมือนได้แหวนเพชรวงใหม่เลยจ้า

เพชรรัซเซียหรืออีกชื่อหนึ่งคือ Cubic zirconia (CZ) เป็นสิ่งที่สังเคราะห์ขึ้นมาลักษณะคล้ายเพชร คนมักจะนำมาใช้แทนเพชรเนื่องจากราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว หลายๆครั้งที่ลูกค้านำแหวนวงเก่ามาให้ดูว่านี่ใช่เพชรแท้รึเปล่า หรือบางทีเก็บแหวนปนกันไปหมดจำไม่ได้ว่าอันไหนแท้อันไหนปลอม เรามาดูวิธีแยกง่ายๆ กันดีกว่าค่ะ ว่าแล้วก็หยิบกล้องขยายส่องเพชรมาดูกันเลย .. บางข้อสังเกตอาจจะต้องใช้ความชำนาญในการดูบ่อยๆถึงจะแยกออกดังนั้นหยิบกล้องส่องมาดูบ่อยๆสังเกตเหลี่ยมของทั้งสองชนิด มาเทียบกันบ่อยๆ รับรองว่าไม่ยากแบบที่คุณคิดค่ะ ^ ^

เป็นคำถามยอดฮิตเลยค่ะสำหรับคนที่ไม่เคยซื้อเพชร หรือคนที่อยากซื้อเครื่องประดับเพชรซักชิ้นแต่ไม่กล้าเข้าไปดูที่ร้านเพชรเพราะกลัวคนขายหรือราคาไม่แน่ใจ ^ ^ อย่างที่รู้กันนะคะว่าเพชรมีหลายคุณภาพค่ะ ดังนั้นเราต้องพอรู้ใจในก่อนว่าชิ้นที่เราอยากจะได้นั้นเพชรขนาดประมาณไหน อยากได้น้ำ(ความขาว)ดีแค่ไหน เน้นน้ำขาวๆหรือว่าเน้นเม็ดใหญ่แล้วนวลได้ เน้นเพชรสะอาดรึเปล่า เกรดคัตติ้งยังไง นอกจากเรื่องเพชรแล้วเรายังต้องดูเรื่องเปอร์เซนต์ทองของตัวเรือนด้วยค่ะเพราะมีผลต่อราคา โดยปรกติแล้วร้านเพชรทั่วไปจะใช้ทอง18เค(75%) เป็นมาตรฐานสากลเนื่องจากทองจะได้มีความแข็งแรงพอที่จะเกาะเพชรให้แน่นซึ่งถ้าทองเปอร์เซนต์ยิ่งมากทองก็จะนิ่มมากทำให้เตยที่เกาะเพชรไม่แข็งแรงเท่าที่ควร และรูปทรงเปลี่ยนไปได้ง่ายหากโดนกระแทกแรงๆ ราคาไม่ถึงหมื่นก็ซื้อได้นะ! อาจจะได้เพชรเม็ดจิ๋วๆครึ่งสตางค์หรือหนึ่งสตางค์เรียงกันจำนวนไม่เยอะ ความขาวอาจจะกลางๆหรือนวลขึ้นอยู่แต่ละร้าน ความสะอาดอาจจะกลางๆหรือตำหนิเยอะ คัตติ้งเพชรกลางๆหรือไม่ค่อยสวยเป็นแหวนหรือจี้ชิ้นเล็กๆที่ใช้เนื้อทองไม่เยอะ หรือบางร้านอาจจะใช้ทอง10เค. หรือ14เค เลยทำให้ราคาไม่ถึงหมื่นได้ค่ะ แต่ถ้าอยากได้เครื่องประดับที่พอมีน้ำมีเนื้อขึ้นมาหน่อย ทองได้เปอร์เซนต์เต็มๆ18เค น้ำเพชรค่อนข้างขาว ความสะอาดโอเค น่าจะเป็นช่วงราคาประมาน20,000ขึ้นไปค่ะ พอจะได้แหวนแถวเล็กๆใส่ติดนิ้วได้ทุกวัน หรือแหวน0.20กะรัตข้างๆมีเพชรเล็กน้อย แต่ถ้ามีแบบในใจที่อยากจะได้แล้วอยากรู้ว่าราคาจะประมาณเท่าไหร่กันนะ...

เจอบ่อยๆเลยค่ะลูกค้าถามว่าเพชรหนึ่งกะรัตน้ำเท่านี้ราคาเท่าไหร่ แล้วก็สรุปเลยว่าร้านไหนถูกร้านไหนแพง.. เดี๋ยวนะคะ ลืมดูปัจจัยอื่นรึเปล่าคะ เวลาจะเทียบราคาเราจะต้องเทียบให้ครบ4ปัจจัยดังนี้ค่ะ (4C) สีของเพชร (Color) เริ่มตั้งแต่D color(น้ำ100) ไล่ลงไปเรื่อยๆค่ะ ซึ่งยิ่งเพชรขาวราคาก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ละสีราคาแตกต่างกันเยอะอยู่พอสมควรค่ะ ตารางสีของเพชร 2. น้ำหนักของเพชร (Weight) น้ำหนักของกะรัตมีผลต่อราคาแบบไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ค่ะ เช่นเพชรนน. 2กะรัตเมื่อเทียบกับเพชรนน.1กะรัตที่คุณสมบัติอย่างอื่นเท่ากันแล้วจะไม่ใช่ราคา2เท่าของเพชร1กะรัตค่ะ หรือ 0.49กะรัตและเพชร0.50กะรัตมีฐานราคาที่ต่างกันทำให้0.01กะรัตที่ต่างกันราคากระโดดขึ้นมาอีกขั้นนึงค่ะ 3. เกรดการเจียระไนของเพชร (Cutting) มีผลมากนะคะจุดนี้เพราะมีผลโดยตรงกับไฟหรือประกายของเพชรที่ลูกค้ามักจะไม่ได้สังเกตเวลาซื้อในใบเซอร์ค่ะ ถ้าเกรดการเจียระไนได้เกรดสูงสุดคือ triple excellent ราคาก็จะสูงกว่าเม็ดที่ได้เกรดรองมาค่ะ ส่วนมากร้านGems Heritage จะเลือกใช้เพชร triple excellent...