โหทำไมราคาเพชรร้านนู้นถูกกว่าเยอะเลย!!!

เจอบ่อยๆเลยค่ะลูกค้าถามว่าเพชรหนึ่งกะรัตน้ำเท่านี้ราคาเท่าไหร่ แล้วก็สรุปเลยว่าร้านไหนถูกร้านไหนแพง.. เดี๋ยวนะคะ ลืมดูปัจจัยอื่นรึเปล่าคะ

เวลาจะเทียบราคาเราจะต้องเทียบให้ครบ4ปัจจัยดังนี้ค่ะ (4C)

  1. สีของเพชร (Color)

เริ่มตั้งแต่D color(น้ำ100) ไล่ลงไปเรื่อยๆค่ะ ซึ่งยิ่งเพชรขาวราคาก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ละสีราคาแตกต่างกันเยอะอยู่พอสมควรค่ะ

ตารางสีของเพชร

2. น้ำหนักของเพชร (Weight)

น้ำหนักของกะรัตมีผลต่อราคาแบบไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ค่ะ เช่นเพชรนน. 2กะรัตเมื่อเทียบกับเพชรนน.1กะรัตที่คุณสมบัติอย่างอื่นเท่ากันแล้วจะไม่ใช่ราคา2เท่าของเพชร1กะรัตค่ะ หรือ 0.49กะรัตและเพชร0.50กะรัตมีฐานราคาที่ต่างกันทำให้0.01กะรัตที่ต่างกันราคากระโดดขึ้นมาอีกขั้นนึงค่ะ

3. เกรดการเจียระไนของเพชร (Cutting)

มีผลมากนะคะจุดนี้เพราะมีผลโดยตรงกับไฟหรือประกายของเพชรที่ลูกค้ามักจะไม่ได้สังเกตเวลาซื้อในใบเซอร์ค่ะ ถ้าเกรดการเจียระไนได้เกรดสูงสุดคือ triple excellent ราคาก็จะสูงกว่าเม็ดที่ได้เกรดรองมาค่ะ

ส่วนมากร้านGems Heritage จะเลือกใช้เพชร triple excellent ทุกเม็ดยกเว้นลูกค้าสั่งตามความต้องการค่ะ

เปรียบเทียบเพชรที่เจียระไนไม่สวย(ซ้าย) และ เพชรที่เจียระไนได้ Triple excellent(ขวา)

4. ความสะอาดของเพชร (Clarity)

ยิ่งสะอาดราคาก็จะยิ่งสูงค่ะ เริ่มจาก FL ไปจนถึง I3 ลูกค้าหลายๆคนไม่ได้สนใจในความสะอาดมากเพราะคิดว่ามองไม่เห็นแต่จริงๆแล้วความสะอาดของเพชรสามารถมีผลกระทบต่อไฟหรือประกายของเพชรด้วยนะคะ ปรกติแล้วที่ร้านGems Heritageจะใช้เพชรเกรด VS และ VVS ขึ้นไปยกเว้นลูกค้าจะสั่งพิเศษตามความต้องการค่ะ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสะอาดของเพชรได้ที่นี่

ดังนั้นเวลาเทียบราคาจะต้องเทียบทั้ง4ปัจจัยนะคะไม่งั้นอาจจะเทียบแบบผิดๆแล้วซื้ออันที่แพงกว่าก็เป็นได้จ้า